วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ประวัติ


แบบประวัติ

ชื่อ  นายมงคล สาระคำ (ข่า)
เกิด วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2529 ปัจจุบันอายุ 28 ปี 1 เดือน
ภูมิลำเนา 52 หมู่ 3 บ้านกุดเลา ต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น 40210
สูง 161 เซนติเมตร น้ำหนัก 74 กิโลกรัม
มือถือ 0845162502
อีเมลล์; Smongkol9529@gmail.com; Smongkol9529@hotmail.com
เฟซบุค; https://www.facebook.com/mongkolmoso.sarakham

วุฒิการศึกษา
2548 - 2551 วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2557 - ปัจจุบัน กำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช คณะครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา

ประสบการณ์ทำงาน
2556 – ปัจจุบัน ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านการศึกษา มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย โครงการ Chevron-INCREASE เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดสงขลา และ นครศรีธรรมราช
2554 – ปัจจุบัน วิทยากร ห้องเรียนวิทยาศาสตร์เชิงปฏิบัติการแบบสืบเสาะเรียนรู้ และจัดค่ายวิทยาศาสตร์ให้กับกลุ่มโรงเรียนที่สนใจ
2557 – ปัจจุบัน ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านการศึกษา มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย โครงการ Caltex Fuel Your School เติมพลังเมล็ดพันธ์ใหม่ ปลูกต้นกล้าเยาวชน จังหวัดขอนแก่น หนองคาย และอุดรธานี
2553 – 2556 ประสานงานโครงการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์: UPGRADE: สสวท. ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ระยอง นนทบุรี นครปฐม ขอนแก่น และเชียงใหม่
2552 – 2554 ผู้ประสานงานภาคสนามโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จังหวัดพังงา MSD IN-STEP
2551-2554 เข้าร่วมกิจกรรมนับนกกับทาง สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง

2552 - ปัจจุบัน สถาบันคีนันมีท้องฟ้าจำลองเคลื่อนที่ ซึ่งได้เดินทางบรรยายอย่างต่อเนื่อง ทั่วทุกภูมิภาค (สนิทกับ ผศ.ศักดิ์ชาย เพ็ชรช่วย มรภ.ภูเก็ต เป็นอย่างดี)
2550 งานวิจัย สำรวจจำนวนชนิดและความหลากหลายของนกในป่าชุมชน จังหวัดขอนแก่น
2550 ประธานชุมนุมดูนกและศึกษาธรรมชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2548 – 2551 คณะกรรมการชุมนุมดูนกและศึกษาธรรมชาติ
 

ทักษะความสามารถ
-          การจัดอบรมวิทยาศาสตร์ การพัฒนาความเป็นผู้นำ และ การวางแผนจัดกิจกรรม
-          ภาษาอังกฤษ ระดับ 6 จาก AUA (15 ระดับ)
-          คอมพิวเตอร์ Microsoft Office 2010; Word, Power Point, Excel, Outlook, Publisher, Office 365

ทัศนคติต่อการทำงาน
          มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมด้านการพัฒนากับทางโรงเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา  มหาวิทยาลัย สถานที่ฝึกงานและสถาบันที่ทำงานปัจจุบัน เห็นความเป็นไปของสังคมไทยที่ดำเนินไปด้วยการใช้ทักษะส่วนบุคคลมากกว่าการใช้ข้อมูลที่มีช่วยตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นตลอดเวลาที่ทำงานมา จึงมองไปที่การสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ เน้นทักษะส่วนบุคคลต้องใช้วิทยาศาสตร์มาพัฒนาชีวิต ขอเป็นอีกแรงหนึ่งเล็กๆที่ช่วยประชาสัมพันธ์หรือช่วยให้คำแนะนำให้ทุกคนมีทักษะการใช้วิทยาศาสตร์ในการดำเนินชีวิต ใช้การทำนายจากข้อมูลที่มีอยู่ จากหลักฐานเชิงประจักษ์ จากปรากฏการณ์ จากทฤษฎีที่ค้นคว้ามา แทนการเดาสุ่ม และเชื่อว่าถ้าคนไทยเรามีทักษะการใช้วิทยาศาสตร์ภายในตัวแล้ว สังคมเราจะเป็นสังคมที่น่าอยู่มากขึ้น รอยยิ้มแย้มก็จะอยู่คู่คนไทยตลอดไป